วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เพื่อน 8 ประเภทสำหรับชีวิต

เพื่อน 8 ประเภทสำหรับชีวิต เพื่อชีวิต..ที่ยืนยาวขึ้น และ มีความสุขมากขึ้น รู้ไหมว่า...คนที่ไม่มีเพื่อนนั้น...มีแนวโน้มที่จะตายเร็วกว่าชาวบ้าน ไม่เชื่อก็ลองไปถามนักวิทยาศาสตร์ดู ถ้าอยากมีชีวิตดี ไม่ใช่ว่าต้องมีเพื่อนเป็นกองเป็นตัน CHIARA FUCARINO เขียนไว้ว่าถ้าไม่อยากป่วย เร็ว ไม่อยากหาหมอก่อนวัยอันควรก็น่าจะมีเพื่อนไว้ สัก 8 ประเภท 1. A Loyal Best Friend เพื่อนที่รักจริง จริงใจช่วยให้ชีวิตมั่นคง. คนที่ไม่ว่า เราจะทำผิด ทำยุ่งยังไง คนที่รู้ลึก รู้จริงเกี่ยวกับ ด้านมืดของเรา แต่ยังคงรักเราไม่เปลี่ยนแปลง 2. A Fearless Adventurer เพื่อนใจถึง กล้าผจญภัย... เราอยู่ในโลกอันกว้างใหญ่ไพศาล มีหลายอย่างให้เรียนรู้ แต่บางครั้งเราก็ติดอยู่กับโลกแคบๆของเรา ทำงาน routine ไปวันๆ ลืมที่จะใช้ชีวิต เพื่อนแบบนี้จะช่วยดึงเราออกมาจากหลุม เปิดโลก ให้ความคิดใหม่ ปรัชญาในการใช้ชีวิตใหม่ พาไปสู่วัฒนธรรมและกิจกรรมใหม่ๆ 3. A Brutally Honest Confidant เพื่อนมั่น ร้าย แต่คนจริง... ในชีวิตคนมันย่อมมีช่วงเวลาที่เราต้องการจะรับฟังความจริงถึงแม้มันจะโหด ต้องเจอช่วงเวลาขรุขระของชีวิต หลายคนอาจบอก เราว่า...เอาน่ะ..มันเป็นเรื่องธรรมดา เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว แต่เพื่อนมั่นจะกล้าลุกขึ้นมาบอกว่า... พอเหอะ อย่าน้ำเน่า หยุดคิดอะไรที่มันไม่จริง เธอทำได้ดีกว่านั้น... เพื่อนแบบนี้หายาก ส่วนใหญ่มีแต่อวยกัน 4. A Wise Mentor เพื่อนผู้นำทาง...ถ้าเรามีเพื่อนที่ smart เป็นแรงบันดาลใจ เพื่อนที่น่าชื่นชมในชีวิตนี่ ถือว่าโชคดีมากมาก ทุกคนต้องการเพื่อนที่อยู่ด้วยแล้วเรามีพัฒนาการมากขึ้นทุกวัน เพราะคนแบบนี้จะก้าวล้ำหน้าเราไปหลายก้าว ซึ่งไม่จำเป็นต้องอยู่ในอาชีพเดียวกัน เป็นใครก็ได้..เป็นเพื่อนโรงเรียน เพื่อนที่ไม่ได้เจอกันหลายปีก็ได้ ตราบใดที่เรายังมองดู และอยากจะเป็นเหมือนให้ได้สักวัน 5. A Friend From a Different Culture เพื่อนต่างวัฒนธรรม...เพื่อนแบบนี้จะทำให้โลกน่าอยู่ขึ้นมาทันที เราสามารถเรียนรู้ได้มากจากค่านิยม วิถี การปฎิบัติที่แตกต่าง คาดว่าเราคงได้ทำอะไรที่ต่าง และใหม่กว่าเดิมแน่ๆ แค่เปิดใจกว้างไว้ 6. A Polar Opposite เพื่อนต่างขั้ว....มันจำเป็นนะ พวกที่มีความเห็นต่างเนี่ย เพราะถ้าอยู่กับคนที่อะไรก็เหมือนกันไปหมด โอกาสที่จะก้าวออกมาจาก comfort zone นั้นแทบไม่มี พวกนี้จะช่วยเปิดหูเปิดตา และที่สำคัญ ช่วยให้เราได้มีใจกว้างขึ้น สามารถยอมรับคนที่เห็นต่างจากเราได้ พวกนี้ คือ แบบฝึกหัด 7. A Friendly Neighbor เพื่อนบ้านใจดี... ทุกวันนี้เราแทบจะไม่ได้สังฆกรรมกับคนข้างบ้านเลย หรือที่แย่ คือ ไม่รู้จักกัน อย่าลืมว่าเพื่อนบ้านที่ดีนั้น เป็นตัวช่วยที่ดีของชีวิต เช่น ถ้าไปไหนๆหลายวัน แต่นึกได้ว่าลืมล็อคประตูบ้าน เราขอความช่วยเหลือกันได้ (แต่ต้องแน่ใจนะว่าเป็นเพื่อนบ้านที่ดีจริงๆไว้ใจได้นะ) 8. A Work Pal คู่หูคู่งาน... ในเมื่อเราใช้เวลาอย่างน้อย 50% อยู่กับงาน ใช้เวลามากกว่าอยู่บ้านอีก ถ้าทำงานแบบไร้คู่หู คงโดดเดี่ยวน่าดู มีแนวโน้มเหี่ยวเฉาแน่นอน... มันต้องมีเพื่อนร่วมงานที่เป็นคู่หูกันไว้ ซึ่งเพื่อนแบบนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นเพื่อนนอกเวลางานก็ได้ แค่ click กันเรื่องงานก็แฮบปี้แล้ว การมีเพื่อนที่รักจริง เพื่อนใจถึง เพื่อนมั่น เพื่อนผู้นำทาง เพื่อนต่างวัฒนธรรม เพื่อนต่างขั้ว เพื่อนบ้านใจดี เพื่อนคู่หูในงาน...แค่นี้ชีวิตก็ยืนยาวขึ้นแล้ว มีความสุขแล้ว...

หลายปีมานี้

หลายปีมานี้

ท่านที่เคารพนับถือท่านหนึ่งส่งมาให้พิจารณาชีวิตที่เหลืออยู่ เห็นว่าดีมากครับ เชิญอ่านครับ. หลายปีนี้.....< ชีวิตสอนเราว่า 1. หลายปีนี้ เริ่มรู้สึก หวาดหวั่นเมื่ออายุมากขึ้น ญาติสนิทมิตรสหายเริ่มทยอยจากเราไป รู้สึกถึง ชีวิตล้วนอนิจจัง 2. หลายปีนี้เริ่มรู้สึกปล่อยวาง เริ่มเรียนรู้ถึงสิ่งที่ไม่ว่า จะเสียดายหรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นสิ่งที่จะต้องเป็นไปโดยวิถีแห่ธรรมชาติ 3. หลายปีนี้ ชีวิตสอนว่า การตั้งตนอยู่ในความระแวดระวังผู้อื่นจะขาดเสียไม่ได้ และการที่จะคิดร้าย กับผู้อื่นเป็นสิ่งที่กระทำไม่ได้โดยเด็ดขาด 4. หลายปีนี้ ชีวิตสอนว่า ความสนิทชิดเชื้อระหว่างมนุษย์นอกเหนือจากความเกี่ยวพันทางสายเลือดแล้ว สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือ สัมพันธภาพทางจิตใจที่จริงใจต่อกัน 5. หลายปีนี้ ชีวิตสอนว่า สิ่งที่เคยใฝ่ฝันอยากได้ในอดีต แม้วันนี้จะได้มาก็หา ใช่สิ่งที่สำคัญสำหรับเราอีกต่อไป 6. หลายปีนี้ เริ่มตื่นรู้ นอกจากเราต้องทำดีกับผู้อื่นแล้วเราจะต้องทำ สิ่งที่ดีงามให้กับคนที่ดีกับเราให้มากเท่าทวีคูณ 7. หลายปีนี้ เริ่มเรียนรู้ว่า เวลาหาได้บ่มเพาะความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้คน ตรงกันข้ามเวลากลับ พิสูจน์ให้เห็นถึงธาตุแท้ของผู้คน 8. หลายปีนี้ เริ่มรู้ซึ้ง นอกจากพ่อแม่แล้ว ไม่มี ใครในโลกที่จะคอยอนุเคราะห์โอบอุ้มและให้อภัย เราเหมือเช่นที่ท่านให้กับเรา 9. หลายปีนี้ เริ่มหวาด หวั่นถึงความประมาท ที่อาจจะนำมาซึ่งอุบัติเหตุ การบาดเจ็บและความทุกข์ทรมานต่อร่างกายอย่างไม่คาดฝัน 10. หลายปีนี้ เราเปลี่ยน ไป สามารถอดทนแบก รับความทุกข์ในหลากหลายรูปแบบ มีความแกร่ง ในชีวิตเหมือนต้นกระบองเพชรที่สามารถจะอยู่รอดได้ในทุกสถานะ 11. หลายปีนี้ เริ่มสำนึก ไม่ดึงดันถือมั่นอย่างที่เคย หลายสิ่งที่เคยยึดมั่น เริ่มคลายความถือมั่นอย่างที่เคยเป็น 12. หลายปีนี้ หลายสิ่งที่ ขัดหูขัดตา ก็สามารถที่จะ ทำใจให้เป็นเหมือน “ฟังแต่ไม่ได้ยิน มองแต่ไม่ได้เห็น“ 13. หลายปีนี้ ชีวิตสอนว่า ไม่ใช่คนทุกคนจะยินยอมเดินตามวิถีทางที่เราอยากให้เป็น 14. หลายปีนี้ ชีวิตสอนว่า สิ่งที่เป็นของเรา ย่อมต้อง เป็นของเราสิ่งที่ไม่ใช่ของเรา จงอย่าได้ฝืนเอา 15. หลายปีนี้ ชีวิตสอนว่า อย่าได้อิจฉาชีวิตของผู้อื่น เพราะเราเองก็สามารถ ที่จะใช้ชีวิตอย่างที่เราต้องการให้เป็น เวลาดุจสายน้ำ ไหลไปไม่หวนกลับ เรียนรู้กับชีวิต รู้ซึ้งถึงชีวิต หวงแหนทุกวันเวลาที่ผ่านไป ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า เรียนรู้ชีวิตอย่างสงบ ต่อไป.......................

โดนตี

โดนตี

ลูกชาย กลับจากโรงเรียนรีบมาฟ้องพ่อว่าโดนครูตี พ่อ : "ทำไมถึงโดนตีละ" ลูก : "ผมตอบคำถามไม่ได้เลยโดนครูตี" พ่อ : "แค่ตอบคำถามไม่ได้แค่นี้ก็โดนตีเหรอ แล้วครูถามว่าไง" ลูก : "ถามว่า ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน" พ่อ : "คำถามเหี้ยๆแบบนี้ใครจะตอบได้วะ. แล้วเอ็งตอบว่าไงละ" ลูก : "ผมก็ตอบแบบพ่อนี่แหละถึงโดนครูตีมาเนี่ย" พ่อ : !!!

วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

นิทานเรื่อง "ยิ่งแบ่งปัน ยิ่งเติบโต"

นิทานเรื่อง "ยิ่งแบ่งปัน ยิ่งเติบโต"

ครั้งหนึ่งในอเมริกากลาง ทุกๆปีจะมีการประกวดเมล็ดพันธ์ข้าวโพด

หลังจากการประกวดชายผู้ที่ชนะเลิศที่หนึ่งเขาทำในสิ่งที่คาดไม่ถึง นั่นคือ ทันที่ที่เขาชนะเขาได้นำเมล็ดพันธ์ที่เพิ่งชนะการประกวดแจกให้กับผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขันและกล่าวว่า " เอาเมล็ดพันธ์นี้ไปปลูกน่ะ แล้วปีหน้าเรามาแข่งกันใหม่ " 

ในปีต่อมา เขาก็ชนะการประกวดเมล็ดพันธ์ข้าวโพดอีก เหมือนปีที่ผ่านมา เขาเดินแจกเมล็ดพันธ์ที่เขาเพิ่งชนะให้กับคนอื่นๆ แล้วบอกว่า " เอาไปปลูกน่ะ แล้วปีหน้าเรามาแข่งกันใหม่ " ชายผู้นี้ชนะการประกวดเมล็ดพันธ์ข้าวโพดติดต่อกันหกครั้ง และเขาก็แจกเมล็ดพันธ์ที่ชนะให้ผู้แข่งขันคนอื่นๆทุกปี

จนมีนักข่าวถามเขาว่า "ไม่เป็นการง่ายกว่าหรือ ถ้าเขาเก็บเมล็ดพันธ์ที่ดีโดยไม่แบ่งคนอื่น เขาก็จะได้ชนะง่ายๆทุกปี " เขาตอบว่า " แสดงว่าคุณไม่เข้าใจในการปลูกพืช คุณเคยได้ยินคำว่า การกลายพันธ์ไหม ถ้าไร่ของผมมีเมล็ดพันธ์ที่ดี บังเอิญไร่ของเพื่อนบ้านมีแต่เมล็ดพันธ์ที่แย่ๆ วันหนึ่ง ลมก็จะพัดเอาเกสรของเมล็ดพันธ์ที่แย่ๆมาตกในไร่ของผม ทำให้เมล็ดพันธ์ผมแย่ไปด้วย มันไม่เป็นการดีหรอกหรือ ที่ทุกคนมีเมล็ดพันธ์ดีแล้วถึงตอนนั้นมาแข่งกันว่า ใครขยัน รดนำพรวนดินดีกว่ากัน " มีคำกล่าวว่า "ถ้าคุณมีเมล็ดพันธ์ความคิดที่ดี คุณเก็บไว้กับตัว ไม่แบ่งปันใคร ถึงวันหนึ่งเมล็ดพันธ์แห่งความคิดนั้น ก็จะตายไปพร้อมคุณ "

เป็นสิ่งสำคัญในชีวิต ที่ความคิดและความรู้ ยิ่งให้ออกไป เรายิ่งได้รับกลับมาและเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนๆนั้นประสบความสำเร็จที่มากขึ้นไปพร้อมๆกับการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าในสังคม